
หลังจากที่ อาร์เซนอล จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก สะดุดพ่าย แอสตัน วิลล่า ในนัดที่ 15 จนช่องว่างคะแนนลดเหลือเพียง 2 แต้ม พวกเขาก็เรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ทันควันด้วยการเก็บชัยชนะ 3 นัดรวด (คลับ บรูช, วูล์ฟแฮมป์ตัน และ เอฟเวอร์ตัน) กลับเข้าสู่เส้นทางลุ้นแชมป์เต็มตัว
กลางสัปดาห์นี้ "ปืนใหญ่" มีคิวลงเตะฟุตบอลถ้วยคาราบาว คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย (ในข่าวต้นฉบับระบุรอบ 4 แต่นัยยะคือรอบก่อนรองฯ) เปิดบ้านรับการมาเยือนของ คริสตัล พาเลซ ทีมที่ช่วงหลังฟอร์มแผ่วลงอย่างชัดเจน ล่าสุดเพิ่งโดน ลีดส์ ถล่มมา 4-1
รูปเกมการแข่งขัน: มิเกล อาร์เตต้า จัดทัพในระบบ 4-3-3 โดยมี กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, กาเบรียล เชซุส และ โนนี่ มาดูเอเก้ เป็นสามประสานแดนหน้า
ครึ่งแรก: เป็นโชว์ของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ที่ฟอร์ม "ร่างทอง" ทั้งจ่ายทะลุช่องและสร้างสรรค์โอกาสสวยๆ หลายครั้ง แต่ทว่า โนนี่ มาดูเอเก้ คู่หูในแนวรุกกลับใช้โอกาสเปลืองอย่างน่าเหลือเชื่อ พลาดจังหวะจบสกอร์จ่อๆ ไปถึง 3-4 ครั้ง ทั้งจากการจ่ายถวายพานของมาร์ติเนลลี่ และลูกโหม่งของเชซุส

ครึ่งหลัง: เกมเปิดแลกกันมากขึ้น พาเลซมีโอกาสสวนกลับน่ากลัวจาก เลอร์มา และ วอร์ตัน แต่ยิงหลุดกรอบไป จนกระทั่งนาทีที่ 80 อาร์เซนอลมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะเตะมุมของ ซาก้า ที่สร้างความปั่นป่วนหน้าประตู จน มักซ์วence ลาครัวซ์ กองหลังพาเลซทำเข้าประตูตัวเอง
ดราม่าท้ายเกม: เกมทำท่าจะจบด้วยชัยชนะของเจ้าบ้าน แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ มาร์ค เกฮี กัปตันทีมพาเลซ ดันขึ้นมาซัดประตูตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ ทำให้ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ

ช่วงดวลจุดโทษสุดระทึก: การดวลเป้าเป็นไปอย่างยืดเยื้อและบีบหัวใจ โดยทั้งสองฝั่งยิงเข้ากันหมดใน 7 คนแรก
อาร์เซนอล (เข้า 9): โอเดการ์ด, ไรซ์, ซาก้า, ทรอสซาร์, เมริโน่, คาลาฟิออรี่, ทิมเบอร์, ซาลิบา (ยิงเข้าทุกคน)
คริสตัล พาเลซ (เข้า 8): มาเตต้า, เดเวนนี่, ฮิวจ์ส, โซซ่า, เลอร์มา, วอร์ตัน, อูเช (ยิงเข้า) / คนพลาด: ลาครัวซ์ (ยิงไม่เข้า)