
วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม – พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 16 คู่แข่งขัน: คริสตัล พาเลซ พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สนาม: เซลเฮิสต์ พาร์ก เวลาแข่งขัน: 21:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2025-26 นัดสำคัญประจำสัปดาห์ "ดิ อีเกิลส์" คริสตัล พาเลซ ที่กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม จะเปิดสนามเซลเฮิสต์ พาร์ก รับการมาเยือนของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก 14 สมัย โดยคู่นี้มีความหมายอย่างยิ่งต่ออันดับหัวตาราง
ในแง่ของความสำคัญ พาเลซในฐานะแชมป์เอฟเอ คัพ และคอมมูนิตี้ ชิลด์ เมื่อซีซั่นก่อน กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและต้องการ 3 แต้มเพื่อยึดพื้นที่ท็อปโฟร์ ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ต้องการชัยชนะเพื่อลดช่องว่างจากจ่าฝูง
วิเคราะห์ความพร้อมและฟอร์มการเล่น
1. คริสตัล พาเลซ: ปราสาทเรือนแก้วสุดแกร่ง เกมรับคือทีเด็ด
สถานการณ์: พาเลซ รั้งอันดับ 4 ของตาราง (แข่ง 15 นัด มี 27 คะแนน) ตามหลังอันดับ 3 เพียงแต้มเดียว ฟอร์มในบ้านดุดันมาก โดย 5 นัดหลังสุดในถิ่นตัวเอง ชนะ 4 เสมอ 1 (ชนะรวด 80%) และเพิ่งล้ม ลิเวอร์พูล มาได้ 2-1 ในเกมก่อนหน้านี้
ความพร้อม: สภาพทีมค่อนข้างสมบูรณ์ มีเพียง รูเบน ลอฟตัส-ชีค ที่มีอาการเจ็บกล้ามเนื้อเล็กน้อย น่าจะมีชื่อแค่ตัวสำรอง โดยคีย์แมนสำคัญอย่าง เอเบเรชี่ เอเซ่ (5 ประตู 3 แอสซิสต์) พร้อมบัญชาเกมรุก ส่วนแนวรับ คริส รีชาดส์ ที่ฟอร์มกำลังขึ้นหม้อ จะลงประจำการเพื่อหยุดยั้งเกมรุกเรือใบ
แทกติก: คาดว่าจะมาในระบบ 5-4-1 เน้นเกมรับที่รัดกุม อาศัยวิงแบ็กอย่าง ไทริค มิตเชลล์ และ นาธาเนียล ไคลน์ ช่วยซ้อนเกมรับ และใช้ทีเด็ดจากลูกสวนกลับเร็วโดยมี เอเซ่ และ ไมเคิล โอลิเซ่ เป็นตัวขับเคลื่อน
2. แมนเชสเตอร์ ซิตี้: แชมป์เก่าพร้อมลุย แต่ต้องระวังเกมเยือน
สถานการณ์: "เรือใบสีฟ้า" รั้งรองจ่าฝูง (แข่ง 15 นัด มี 29 คะแนน) ตามหลังจ่าฝูง 2 แต้ม เกมรุกยังคงดุดันยิงไปแล้ว 36 ประตู แต่ฟอร์มเกมเยือนเริ่มมีสะดุด ล่าสุดเพิ่งบุกไปแพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-2 แม้ในถ้วยยุโรปจะเพิ่งชนะ เรอัล มาดริด มาได้ก็ตาม
ความพร้อม: ข่าวดีที่สุดคือ เออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าจอมถล่มประตูหายเจ็บกลับมาฟิตเต็มร้อยพร้อมลงตัวจริง แต่ต้องเช็กฟิต เควิน เดอ บรอยน์ ที่มีอาการเจ็บเข่ารบกวนเล็กน้อย คาดว่าจะเริ่มต้นที่ม้านั่งสำรอง โดยแดนกลางจะใช้ ฟิล โฟเด้น จับคู่กับ มาเตโอ โควาซิช
แทกติก: เป๊ป กวาร์ดิโอล่า น่าจะยึดระบบ 4-3-3 เน้นครองบอลบุกตามสไตล์ ถ่ายบอลออกปีกให้ แจ็ค กรีลิช และ แบร์นาร์โด ซิลวา หาช่องเจาะ โดยมี จอห์น สโตนส์ ขยับขึ้นมาช่วยเชื่อมเกมแดนกลาง และระวังลูกสวนกลับของเจ้าถิ่น

สถิติการพบกันและประเด็นน่าสนใจ
เฮดทูเฮด: แม้สถิติรวม แมนฯ ซิตี้ จะดูดีกว่า แต่ระยะหลัง พาเลซ เริ่มสู้ได้สูสี โดยเฉพาะชัยชนะในนัดชิงเอฟเอ คัพ ฤดูกาลที่แล้วที่พาเลซล้มซิตี้คว้าแชมป์ สร้างความมั่นใจให้เจ้าถิ่นมหาศาล
นัดล่าสุด: เจอกันเมื่อเมษายน 2025 แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านถล่ม 5-2 โดย เดอ บรอยน์ โชว์ฟอร์มเทพ ยิง 1 จ่าย 2
จุดตัดสินเกม: การดวลกันระหว่าง เกมรับที่เหนียวแน่นของพาเลซ กับ เกมรุกที่หลากหลายของซิตี้ หากซิตี้เจาะไม่เข้าอาจโดนทีเด็ดลูกตั้งเตะหรือลูกสวนกลับเล่นงานได้
บทสรุปและการคาดการณ์ เกมนี้จะเป็นการวัดกันระหว่าง "เกมรับในบ้านที่แข็งแกร่ง" ของพาเลซ กับ "เกมรุกระดับแชมป์" ของซิตี้ รูปเกมน่าจะเป็นทีมเยือนที่ครองบอลบุกเข้าใส่ ส่วนเจ้าบ้านรอจังหวะสวนกลับ จุดเปลี่ยนอาจอยู่ที่ความคมของ ฮาแลนด์ และการแก้เกมหากต้องส่ง เดอ บรอยน์ ลงมาเปลี่ยนมิติเกมรุก
คาดว่ารูปเกมจะอึดอัด แต่ด้วยคุณภาพผู้เล่นที่เหนือกว่า แมนฯ ซิตี้ น่าจะเบียดชนะได้ หรืออย่างแย่ที่สุดน่าจะแบ่งแต้มกันไป
สกอร์ที่คาด: เสมอ 1-1 หรือ แมนฯ ซิตี้ เฉือนชนะ 2-1