ชนะแต่ไม่ปลื้ม อาร์เตต้าจวกยับลูกทีม "เล่นเกมรับติดประมาท-สร้างนิสัยแย่ ชี้ความผิดพลาดแบบนี้ยอมรับไม่ได้ แม้เฉือนวูล์ฟส์ 2-1

14 ธันวาคม – อาร์เซนอลเปิดบ้านเฉือนชนะวูล์ฟแฮมป์ตันไปแบบหืดจับ 2-1 โดยได้ประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ หลังจบเกม มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม ได้ให้สัมภาษณ์ตำหนิทัศนคติในการเล่นเกมรับของลูกทีมที่ดู "เฉื่อยชา" และ "ติดประมาท" ว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

บรรยากาศในห้องแต่งตัวหลังเกม อาร์เตต้า: "รู้สึกโล่งอกครับ แต่เราก็ตระหนักดีว่าเราควรจะกุมความได้เปรียบได้มากกว่านี้ ในครึ่งแรกเราสร้างโอกาสทองได้มากมายแต่กลับฉกฉวยไว้ไม่ได้และยิงประตูเพิ่มไม่ได้ ทั้งที่เรามีจังหวะจบสกอร์สวยๆ หลายครั้ง

พอเริ่มครึ่งหลัง เราปรับแก้เรื่องนี้และทำได้ดีขึ้น เราสร้างโอกาสได้มากขึ้นจนยิงประตูได้สำเร็จ แต่หลังจากนั้นกลับมีช่วงเวลา 2-3 นาทีที่เราเล่นกันได้น่าผิดหวังมาก เราเล่นเกมรับแบบกล้าๆ กลัวๆ และติดนิสัยการเล่นเกมรับที่แย่มาก ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น แม้จะเจอกับทีมที่แทบไม่ได้ง้างเท้ายิงเลยก็ตาม

และเมื่อคู่แข่งมีโอกาสครั้งแรก พวกเขาก็ทำได้ทันที นี่แหละคือความโหดร้ายของพรีเมียร์ลีก ท้ายที่สุดเรายิงประตูชัยและชนะเกมนี้ได้ เราโล่งใจนะ แต่ก็น่าเสียดายที่เรายังมีจุดบกพร่องที่ต้องแก้ไขอย่างแน่นอน"

ความมุ่งมั่นและใจสู้ของทีม อาร์เตต้า: "นั่นคือแง่บวกของเกมนี้ แต่บางครั้งผมก็ไม่อยากยกเครดิตให้แค่เรื่องความอึดหรือประตูที่ได้มาหรอกนะ เพราะจริงๆ แล้วเราควรจะตัดไฟแต่ต้นลม ทำลายเกมรุกคู่แข่งให้ได้ตั้งแต่แรก มันขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ต้องชื่นชมวูล์ฟส์ด้วย พวกเขาเล่นได้ดี ผมดูเกมที่พวกเขาไปเยือนเชลซีและเปิดบ้านเจอแอสตัน วิลล่า พวกเขาโชคร้ายที่ไม่ชนะ ผมรู้ว่าเกมนี้ไม่ง่าย แต่ความผิดพลาดที่นำไปสู่การเสียประตูทำให้เราเล่นยากขึ้นเอง ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้"

ตารางการฝึกซ้อมในสัปดาห์นี้ อาร์เตต้า: "ตอนนี้เราต้องปรับจูนกันใหม่ ผมจะให้พวกเขาพักสัก 2 วัน แล้วเราจะมีเวลาเตรียมตัวอีกหนึ่งสัปดาห์ เวลาที่ไม่ได้ซ้อม สภาพทีมจะค่อยๆ แผ่วลง และนิสัยการเล่นบางอย่างที่เราสร้างมาก็จะเริ่มแย่ลง เพราะขาดการซ้อมเพื่อกระตุ้นพวกเขา เราทุกคนรู้ดีว่าช่วงคริสต์มาสคือช่วงชี้ชะตาของฤดูกาล ดังนั้นเราต้องทุ่มเทกันอย่างเต็มที่"

บทเรียนจากเกมนี้ อาร์เตต้า: "เรียนรู้และก้าวต่อไปครับ ทุกครั้งที่ชนะในพรีเมียร์ลีก คุณควรดีใจและตระหนักว่ามันยากแค่ไหน แต่วันนี้เราทำตัวเองให้ลำบากขึ้น นี่คือบทเรียนสำคัญ เมื่อคู่แข่งมีทีเด็ดก็ต้องยอมรับว่าพวกเขาสร้างปัญหาให้เราได้ แต่เราต้องมั่นใจว่าเราจะรับมือได้ดีกว่านี้"

วิธีแก้ปัญหาการถอยลงไปรับลึก อาร์เตต้า: "แนวรับเราถอยต่ำเกินไป พอผู้รักษาประตูรับบอลได้ เรากลับไม่เซ็ตเกมบุกขึ้นไป แต่เลือกจะเตะสาดทิ้ง นั่นคือปัญหาของเราเอง

เราต้องเล่นในแบบที่เราต้องการ เราสามารถคุมผลการแข่งขันได้ แต่มันต้องเริ่มที่ตัวเรา เราเล่นเกมรับได้แม้พวกเขาจะถมผู้เล่นขึ้นมาบุกจนเราเพรสซิ่งไม่ได้ในบางจังหวะ ซึ่งไม่เป็นไร แต่ความเข้มข้นในการเล่นเกมรับของเราต้องไม่ใช่อย่างที่เห็นในวันนี้"

อาการบาดเจ็บของ เบน ไวท์ อาร์เตต้า: "ชัดเจนว่าเขายังมีปัญหาที่เข่าและไม่ได้ลงเล่นมากนัก พอเริ่มกลับมาฟิตก็ต้องถูกเข็นลงสนามทันทีเพราะเราไม่มีใครเหลือแล้ว วันนี้เราต้องเสี่ยงใช้ วิลเลียม ซาลิบา ด้วยซ้ำ การให้ เบน ไวท์ เล่นครบ 90 นาทีอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก สถานการณ์เหมือนเราต้องแก้ผ้าเอาหน้ารอด เพราะตัวเลือกเราหมดแล้วจริงๆ นี่ถือเป็นข่าวร้ายแน่นอน"

รายละเอียดอาการบาดเจ็บ อาร์เตต้า: "ดูเหมือนจะเป็นที่กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง (แฮมสตริง) เรายังไม่รู้ว่าหนักแค่ไหน คงต้องรอเช็กอาการในวันพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ถึงจะรู้ชัดเจน"

ครึ่งแรกยิงไม่เข้ากรอบเลย อาร์เตต้า: "เป็นเพราะจังหวะการเข้าทำของเรายังไม่ลงล็อค เมื่อคุณมีโอกาสทอง ปกติเราน่าจะยิงเข้ากรอบได้ แต่กลับพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันน่าหงุดหงิดครับ แต่นี่คือฟุตบอล ผมหวังว่าเราจะทำได้ดีกว่านี้ ในระดับนี้คุณต้องเฉียบคมทุกครั้งที่มีโอกาส แต่วันนี้เราทำไม่ได้ เลยทำให้ตัวเองต้องเหนื่อยหนัก"

มีความประมาทในสนามหรือไม่ อาร์เตต้า: "ผมไม่รู้สิ ก่อนเกมกับเบรนท์ฟอร์ด ผมย้ำให้ทุกคนตื่นตัวตั้งแต่ 7:30 น. (เวลาท้องถิ่น) แต่วันนี้เป็นเกมรอบดึก ผมอาจจะลืมกำชับไป แต่ถ้าเราอยากชนะ เราต้องโฟกัสที่เกมการแข่งขัน เรื่องนี้โทษแฟนบอลไม่ได้เลย มันอยู่ที่ตัวเราเอง นาทีสุดท้ายทุกคนกระโดดโลดเต้นดีใจกันยกใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติและเข้าใจได้ แต่ผมหวังว่าเราจะมีความกระหายแบบนั้นตั้งแต่นาทีแรก"

ฟอร์มการเล่นช่วงท้ายเกม อาร์เตต้า: "เราต้องใส่เต็มร้อยตั้งแต่นาทีที่ 1 ถึงนาทีที่ 96 บางช่วงเราพยายามแล้วแต่ผลลัพธ์ไม่ดี จังหวะสำคัญเราอาจจะไม่นิ่งพอ ผมไม่คิดว่าเราตั้งใจจะผ่อนเกมนะ แต่หลังจากยิงได้ในครึ่งหลังมันก็เป็นแบบนั้นไป ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการแน่นอน เราต้องทำให้ดีกว่านี้ครับ"