
สถิติการพบกัน: ลิเวอร์พูลข่มมิด ถือไพ่เหนือกว่าชัดเจน ในเวทีพรีเมียร์ลีก ทั้งสองทีมเคยดวลแข้งกันมาแล้ว 10 ครั้ง ซึ่ง ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดด้วยสถิติชนะ 5 เสมอ 3 แพ้ 2 โดยยิงได้ 18 ประตู เสีย 15 ลูก เรียกว่าเป็น "ของแสลง" ของไบรท์ตันอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในฤดูกาลล่าสุด ลิเวอร์พูล เปิดบ้านทุบชนะ 2-1 ก่อนจะบุกไปแพ้ 3-2 แต่รวมแล้วยังครองความได้เปรียบ สร้างรอยแค้นฝังลึกมาจนถึงนัดนี้ โดยเฉลี่ยยิงได้ 1.8 ประตูต่อนัด และเสียเพียง 1.5 ลูกเท่านั้น
เมื่อดูสถิติทางอ้อม ลิเวอร์พูล มักทำผลงานได้ดีเยี่ยมยามเจอทีมจากโซนล่าง (ชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 2 จาก 10 นัดหลังสุด) โดยมักเหนือชั้นเมื่อเจอสไตล์การเพรสซิ่งสูง ในขณะที่ไบรท์ตัน เชี่ยวชาญการบุกเยือนถิ่นแอนฟิลด์น้อยมาก (3 นัดหลัง ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1) โดยเคยบุกไปเสมอทีมใหญ่ๆ อย่างแมนยู แต่พิสูจน์ให้เห็นถึงความอ่อนแอในเกมเยือน โดยเฉพาะการเสียประตูเฉลี่ย 1.4 ลูกต่อนัด
สมรภูมิและฟอร์มการเล่น: ป้อมปราการแอนฟิลด์ vs เครื่องจักรเกมรุกทะเล สนาม แอนฟิลด์ ของลิเวอร์พูล เปรียบเสมือนป้อมปราการที่แข็งแกร่ง (7 นัดเหย้าในลีกหลังสุด ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 2) แรงกดดันจากแฟนบอลเจ้าถิ่นมักทำให้คู่แข่งเล่นผิดพลาดได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ไบรท์ตัน เองก็มีผลงานเกมเยือนที่ดุดัน (7 นัดหลังในลีก ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 3) โดยมีค่าเฉลี่ยการยิงถึง 1.67 ประตูต่อนัด ประสบการณ์และความคมของทีมเหย้าจะเป็นกุญแจสำคัญในการงัดข้อกับความได้เปรียบในบ้านของลิเวอร์พูล
สถานการณ์ล่าสุด: เจ้าบ้านฟอร์มแผ่วในรัง ทีมเยือนฮอตแต่มีห่วง ลิเวอร์พูล ยังคงคอนเซปต์ "เก่งในบ้าน แต่ฟอร์มไม่แน่นอน" อย่างชัดเจน โดย 5 นัดหลังสุดในถิ่นตัวเองชนะไป 2 เสมอ 1 แพ้ 2 เกมรับถือเป็นจุดขาย แต่เสียประตูเฉลี่ยสูงถึง 1.6 ลูกจาก 15 นัดหลังสุด เกมรุกแม้จะไม่หวือหวาแต่เด็ดขาดด้วยลูกเซ็ตพีซที่เป็นอาวุธหลักถึง 25% ของประตูที่ทำได้
ทางด้าน ไบรท์ตัน ฟอร์มกำลังร้อนแรงทั้งในลีกและบอลถ้วย (10 นัดหลัง ชนะ 6 เสมอ 3 แพ้ 1) อยู่อันดับ 8 ของลีกแบบหายห่วง และทำผลงานในพรีเมียร์ได้ดีเยี่ยม สไตล์การเล่น "เพรสซิ่งสูง + สวนกลับเร็ว" โดยมี คาโอรุ มิโตมะ และ แดนนี่ เวลเบ็ค เป็นคู่หูอันตรายในแดนหน้า แต่จุดที่น่ากังวลคือสมาธิในเกมรับยามออกไปเยือน และปัญหาพละกำลังที่มักแผ่วลงหลังจากผ่าน 60 นาทีไปแล้ว
สภาพความพร้อม: ลิเวอร์พูลขาดแนวรุกหลัก ไบรท์ตันยวบทั้งทีม ลิเวอร์พูล ต้องลุ้นหนักกับอาการบาดเจ็บของ โคดี้ กักโป กองหน้าคนสำคัญที่เจ็บข้อเท้าเล็กน้อย ซึ่งอาจส่งผลต่อการเชื่อมเกม ส่วน วาตารุ เอ็นโด กองกลางตัวรับก็มีปัญหาความฟิต แต่ข่าวดีคือแนวรับตัวหลักอย่าง สเตฟาน บายเซติช ยังพร้อมลงบัญชาการเกมรับร่วมกับผู้รักษาประตู อลิสซอน เบ็คเกอร์ ที่ฟอร์มกำลังเหนียวหนึบ
ฝั่ง ไบรท์ตัน เจอปัญหาใหญ่กว่าเมื่อต้องขาดตัวหลักหลายราย เช่น คาโอรุ มิโตมะ ปีกซ้าย, แดนนี่ เวลเบ็ค กองหน้า, และ เจมส์ มิลเนอร์ กองกลาง ทำให้ประสิทธิภาพการสร้างสรรค์เกมลดลงอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับ อดัม เว็บสเตอร์ แนวรับที่ติดโทษแบน ทำให้แดนกลางอ่อนลงไปถนัดตา แม้แนวรุกจะอยู่กันครบ แต่การขาดตัวปั้นเกมอาจทำให้เจาะเกมรับเจ้าถิ่นได้ยากขึ้น
บทสรุปและการคาดการณ์: หงส์แดงเฉือนนกนางนวล เมื่อพิจารณาจากความแข็งแกร่งในบ้านของลิเวอร์พูล กับเกมรุกที่วูบวาบของไบรท์ตัน รูปเกมน่าจะออกมาเหนือชั้นให้เจ้าถิ่น เจ้าบ้านจะอาศัยความเหนียวแน่นและลูกตั้งเตะคอยเล่นงาน ในขณะที่ทีมเยือนจะรอจังหวะสวนกลับเร็วโจมตีแบ็คที่เติมเกมสูง แต่ด้วยสถิติ H2H ที่ข่มมิด โอกาสที่ลิเวอร์พูล จะคว้าชัยมีสูง โดยเฉพาะการแทงบอลแบบเอเชี่ยนแฮนดิคแคป 0.5/1 ที่เจ้าบ้านชนะ 50% ในสถานการณ์คล้ายๆ กัน
สกอร์ที่คาด: ลิเวอร์พูล เฉือนชนะ 2-1 หรือ 3-1 ลิเวอร์พูลมีโอกาสยิงนำก่อนจากลูกสูตร แต่ทีเด็ดทีขาดของไบรท์ตันน่าจะช่วยให้ตามตีเสมอได้ยาก โดยรวมแล้วโอกาสจบด้วยชัยชนะของเจ้าบ้านมีสูงที่สุด (อัตราต่อรอง 1.65 จาก Bet365) แต่หากไบรท์ตันปิดช่องโหว่แดนกลางไม่มิด ก็อาจโดนทีมเหย้าบุกมาแซงได้เช่นกัน แนะนำแทง Over 2.5 ที่อัตรา 0.90 เนื่องจากสถิติ O/U แสดง Over 60% ใน H2H