
สถิติการพบกัน: ซัลซ์บวร์กข่มมิด ถือไพ่เหนือกว่าชัดเจน ในเวทียุโรป ทั้งสองทีมเคยดวลแข้งกันมาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่ง เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ทำผลงานได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดด้วยสถิติชนะ 2 เสมอ 1 ยังไม่เคยแพ้ เรียกว่าเป็น "ของแสลง" ของไฟร์บวร์กอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในรอบแบ่งกลุ่มยูโรป้า ลีก ปี 2023 ซัลซ์บวร์กเปิดบ้านทุบชนะ 3-1 ก่อนจะบุกไปเสมอ 2-2 เขี่ยไฟร์บวร์กตกรอบด้วยผลต่างประตูได้เสีย สร้างรอยแค้นฝังลึกมาจนถึงนัดนี้
เมื่อดูสถิติทางอ้อม ไฟร์บวร์กมักทำผลงานได้ไม่ดีนักยามเจอทีมจากออสเตรีย (ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 จาก 5 นัดหลังสุด) โดยมักเป๋เมื่อเจอสไตล์การเพรสซิ่งเร็ว ในขณะที่ซัลซ์บวร์กเชี่ยวชาญการบุกเยือนถิ่นเยอรมัน (3 นัดหลัง ชนะ 2 เสมอ 1) โดยเคยบุกไปชนะ ดอร์ทมุนด์ มาแล้ว 2-1 ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความอันตรายในเกมเยือน
สมรภูมิและฟอร์มการเล่น: ป้อมปราการป่าดำ vs เครื่องจักรเกมรุก สนาม ยูโรปา-พาร์ค (แบล็กฟอเรสต์) ของไฟร์บวร์ก เปรียบเสมือนป้อมปราการที่แข็งแกร่ง (10 นัดเหย้าในยุโรปหลังสุด ชนะ 5 เสมอ 3 แพ้ 2) แรงกดดันจากแฟนบอลเจ้าถิ่นมักทำให้คู่แข่งเล่นผิดพลาดได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ซัลซ์บวร์ก เองก็มีผลงานเกมเยือนที่ดุดัน (6 นัดหลังในยุโรป ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1) โดยมีค่าเฉลี่ยการยิงถึง 2 ประตูต่อนัด ประสบการณ์และความคมของทีมเยือนจะเป็นกุญแจสำคัญในการงัดข้อกับความได้เปรียบในบ้านของไฟร์บวร์ก
สถานการณ์ล่าสุด: เจ้าบ้านแกร่งในรัง ทีมเยือนฟอร์มฮอตแต่มีห่วง ไฟร์บวร์ก ยังคงคอนเซปต์ "เก่งในบ้าน แย่นอกบ้าน" อย่างชัดเจน โดย 5 นัดหลังสุดในถิ่นตัวเองชนะไปถึง 4 และเสมอ 1 เกมรับถือเป็นจุดขาย โดยเสียประตูเฉลี่ยเพียง 1.3 ลูกจาก 10 นัดหลังสุด เกมรุกแม้จะไม่หวือหวาแต่เด็ดขาดด้วยลูกเซ็ตพีซที่เป็นอาวุธหลักถึง 30% ของประตูที่ทำได้
ทางด้าน ซัลซ์บวร์ก ฟอร์มกำลังร้อนแรงทั้งในลีกและบอลถ้วย (10 นัดหลัง ชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 1) นำจ่าฝูงลีกออสเตรียแบบหายห่วง และทำผลงานในยูโรป้าได้ดีเยี่ยม สไตล์การเล่น "เพรสซิ่งสูง + สวนกลับเร็ว" โดยมี โนอาห์ โอคาฟอร์ และ จูเนียร์ อดามู เป็นคู่หูอันตรายในแดนหน้า แต่จุดที่น่ากังวลคือสมาธิในเกมรับยามออกไปเยือน และปัญหาพละกำลังที่มักแผ่วลงหลังจากผ่าน 60 นาทีไปแล้ว
สภาพความพร้อม: ไฟร์บวร์กขาดห้องเครื่อง ซัลซ์บวร์กยวบแดนกลาง ไฟร์บวร์ก ต้องลุ้นหนักกับอาการบาดเจ็บของ มักซิมิเลียน เอ็กเกสไตน์ กองกลางคนสำคัญที่เจ็บเข่าเล็กน้อย ซึ่งอาจส่งผลต่อการเชื่อมเกม ส่วน ดาเนียล-โคฟี่ คเยเรห์ ก็มีปัญหาความฟิต แต่ข่าวดีคือแนวรับตัวหลักอย่าง มัทธีอัส กินเทอร์ ยังพร้อมลงบัญชาการเกมรับร่วมกับผู้รักษาประตู มาร์ค เฟล็กเคน ที่ฟอร์มกำลังเหนียวหนึบ
ฝั่ง ซัลซ์บวร์ก เจอปัญหาใหญ่กว่าเมื่อต้องขาดจอมทัพอย่าง ซากานี (ตามรายงานข่าว) ที่เจ็บเข่า ทำให้ประสิทธิภาพการสร้างสรรค์เกมลดลงอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับ ลูก้า ซูซิช ที่ติดโทษแบน ทำให้แดนกลางอ่อนลงไปถนัดตา แม้แนวรุกจะอยู่กันครบ แต่การขาดตัวปั้นเกมอาจทำให้เจาะเกมรับเจ้าถิ่นได้ยากขึ้น
บทสรุปและการคาดการณ์: กินกันไม่ลง เมื่อพิจารณาจากความแข็งแกร่งในบ้านของไฟร์บวร์ก กับเกมรุกที่วูบวาบของซัลซ์บวร์ก รูปเกมน่าจะออกมาสูสี เจ้าถิ่นจะอาศัยความเหนียวแน่นและลูกตั้งเตะคอยเล่นงาน ในขณะที่ทีมเยือนจะรอจังหวะสวนกลับเร็วโจมตีแบ็คที่เติมเกมสูง
สกอร์ที่คาด: เสมอ 1-1 หรือ ไฟร์บวร์ก เฉือนชนะ 2-1 ไฟร์บวร์กมีโอกาสยิงนำก่อนจากลูกสูตร แต่ทีเด็ดทีขาดของซัลซ์บวร์กน่าจะช่วยให้ตามตีเสมอได้ โดยรวมแล้วโอกาสจบด้วยการแบ่งแต้มมีสูงที่สุด แต่หากไฟร์บวร์กปิดช่องโหว่แดนกลางไม่มิด ก็อาจโดนทีมเยือนบุกมาแบ่งแต้มได้เช่นกัน