
ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบลีกเฟส นัดที่ 6 เมื่อเวลา 03:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) เชลซี ยกพลบุกไปเยือน อตาลันต้า ถึงถิ่นอิตาลี
ครึ่งแรก เชลซีเริ่มต้นได้ดีและออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ รีซ เจมส์ แอสซิสต์ให้ ชูเอา เปโดร เข้าชาร์จจ่อๆ นอกจากนี้ยังมีช็อตสำคัญที่ จอช อาเชียมพง ช่วยบล็อกลูกยิงอันตรายเอาไว้ได้ ทำให้จบครึ่งแรกทีมเยือนกุมความได้เปรียบ
อย่างไรก็ตาม เกมในครึ่งหลังหนังคนละม้วน แม้ อเดโมล่า ลุคแมน จะส่งบอลเข้าประตูไปแล้วถูกจับล้ำหน้า แต่ อตาลันต้า ก็ไม่ลดละความพยายาม จนมาได้ประตูตีเสมอจากลูกโหม่งของ จานลูก้า สกามัคก้า (แอสซิสต์โดย ชาร์ลส์ เดอ เกเตลาเร่) และพลิกแซงนำ 2-1 จากการยิงของ เดอ เกเตลาเร่ คนเดิม (แอสซิสต์โดย มาร์เท่น เดอ รูน) จบเกม อตาลันต้า พลิกนรกชนะ เชลซี 2-1
สถานการณ์ตารางคะแนน: ความพ่ายแพ้นัดนี้ทำให้ เชลซี มี 10 คะแนนเท่าเดิม ร่วงลงมาอยู่อันดับที่ 10 (หลุดจากโควตาเข้ารอบ 16 ทีมอัตโนมัติ) ส่วน อตาลันต้า ขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 3 มี 13 คะแนน
เจาะลึกแทคติกและรูปเกม:
อตาลันต้า (ราฟฟาเอเล่ ปัลลาดิโน่): มาในระบบ 3-4-2-1 นำทัพโดย 3 ประสานแนวรุก สกามัคก้า, เดอ เกเตลาเร่ และ ลุคแมน มูลค่าทีมตัวจริงรวม 238 ล้านยูโร
เชลซี (เอ็นโซ่ มาเรสก้า): ใช้ระบบ 4-2-3-1 โดยจัดตัวเซอร์ไพรส์ ให้ รีซ เจมส์ ยืนมิดฟิลด์คู่กับ ไกเซโด้ และส่งดาวรุ่งวัย 19 ปีอย่าง อาเชียมพง ลงยืนแบ็คขวา มูลค่าทีมตัวจริงรวม 555 ล้านยูโร
แม้รูปเกมและการครองบอลจะสูสี แต่สถิติบ่งชี้ว่า อตาลันต้า หาโอกาสจบสกอร์ได้มากกว่า (14 ต่อ 10 ครั้ง) จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่ความผิดพลาดของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือเชลซี ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า "แก้เกมแบบตื่นตระหนก" การเปลี่ยนตัวทำให้รูปเกมที่เป็นรองอยู่แล้วยิ่งแย่ลงจนถูกแซงชนะในที่สุด
สถิติยอดแย่และเสียงวิจารณ์: เชลซี ไม่ชนะใครติดต่อกัน 4 นัดในทุกรายการ และมีโอกาสยิงน้อยกว่าคู่แข่งถึง 3 นัดติดต่อกัน แม้จะมีนักเตะค่าตัวแพงแต่กลับไม่สามารถกุมความได้เปรียบ
ปฏิกิริยาแฟนบอล: หลังจบเกม แฟนบอล "สิงห์บลูส์" ออกมาวิจารณ์อย่างดุเดือด โดยมองว่าจุดอ่อนที่สุดของทีมคือตัวกุนซือ มาเรสก้า โดยมีการพูดถึงประเด็นต่างๆ ดังนี้:
"เดาใจไม่ถูกเลยว่าจะจัดตัวแบบไหน แถมเปลี่ยนตัวเหมือนฆ่าตัวตายชัดๆ"
"แชมป์สโมสรโลกที่ได้มา เหมือนแค่ช่วยยื้อเวลา รักษาแผลเน่าในของทีมไว้เท่านั้น"
บางส่วนโยงเรื่อง "อาถรรพ์" ว่าทีมไหนที่ชนะ บาร์เซโลน่า มาได้ ฟอร์มมักจะร่วงกราวรูดทันที (เหมือนที่ เรอัล มาดริด เคยเจอ)