พรีวิวบิ๊กแมตช์ UCL: 'งูใหญ่' เฝ้ารังจ้องขย้ำ! ฟันธง อินเตอร์ฯ เฉือน 'หงส์แดง' ที่กำลังทรุด 2-1

ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คืนวันพุธที่ 10 ธันวาคม 2025 เวลา 03:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) เตรียมระเบิดความมันส์ระดับ 5 ดาว เมื่อ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน จะเปิดสนาม จูเซปเป้ เมอัซซ่า รับการมาเยือนของยักษ์ใหญ่จากอังกฤษอย่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล การโคจรมาพบกันครั้งนี้เต็มไปด้วยประเด็นน่าสนใจ ฝั่งเจ้าบ้านหวังใช้ความแข็งแกร่งในรังเผด็จศึก ส่วนทีมเยือนกำลังดิ้นรนหาทางออกจากฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่

อินเตอร์ มิลาน: แกร่งในบ้าน ดุดันในยุโรป ในฤดูกาลนี้ ทัพ "เนรัซซูร์รี่" โชว์ฟอร์มในกัลโช่ เซเรีย อา ได้อย่างยอดเยี่ยม รั้งอันดับ 2 ของตารางด้วยผลงานชนะ 10 แพ้ 4 จาก 14 นัด โดยเฉพาะเกมในบ้านที่ชนะถึง 6 จาก 8 นัด (อัตราชนะ 75%) ยิงได้ 21 ประตูและเสียเพียง 5 ลูก ผลงาน 6 นัดหลังสุดรวมทุกรายการชนะไปถึง 5 นัด ส่วนในเวทีแชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาไม่แพ้ใครในเวลาปกติมาอย่างยาวนานถึง 18 นัดติดต่อกัน (นับตั้งแต่กันยายน 2022) ถือเป็นสถิติที่น่าเกรงขามสุดๆ

ลิเวอร์พูล: วิกฤตศรัทธาและปัญหาภายใน ทางฝั่งผู้มาเยือน สถานการณ์กำลังน่าเป็นห่วง ลิเวอร์พูลรั้งอยู่อันดับ 9 ของพรีเมียร์ลีก ชนะเพียง 7 จาก 15 นัด ฟอร์มเกมเยือนย่ำแย่หนัก (ชนะ 3 แพ้ 4 จาก 8 นัด) เกมรับเสียประตูง่าย โดย 6 นัดหลังสุดเสียไปถึง 10 ประตู รวมถึงความพ่ายแพ้เละเทะต่อ พีเอสวี (1-4) และ ฟอเรสต์ (0-3) นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเรื่องความขัดแย้งภายในทีม การเสริมทัพราคาแพงที่ไม่ตอบโจทย์ และอนาคตของกุนซือที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย

สถิติการพบกันและทีเด็ด แม้สถิติ 4 ครั้งหลังสุดในรายการนี้ ลิเวอร์พูลจะดูดีกว่า (ชนะ 3 แพ้ 1) แต่อินเตอร์ชุดนี้ยกระดับขึ้นมามาก ตัวอันตรายอย่าง เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ที่ยิงไป 4 ประตูใน UCL ฤดูกาลนี้ และซัดไป 8 ลูกในเกมเหย้า 5 นัดหลังสุด พร้อมจะเล่นงานแนวรับหงส์แดง โดยมี ฮาคาน ชัลฮาโนกลู คอยบัญชาเกมแดนกลาง

ฝั่งลิเวอร์พูลต้องฝากความหวังไว้ที่ โดมินิก โซบอสไล ที่มีส่วนร่วมกับ 5 ประตูในถ้วยนี้ แต่ปัญหาใหญ่คือแนวรับที่ขาดความมั่นใจ และข่าวลือเรื่องการย้ายทีมของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ส่งผลต่อสปิริตทีม

ความพร้อมของทีม ทั้งสองทีมมีปัญหานักเตะบาดเจ็บ อินเตอร์จะขาด มัตเตโอ ดาร์เมียน, เฮนริค มคิตาร์ยาน และ ราฟาเอล ดิ เจนนาโร่ ส่วนลิเวอร์พูลจะไม่มี รีส วิลเลียมส์, เฌเรมี่ ฟริมปง และ สเตฟาน บายเซติช ซึ่งส่งผลกระทบต่อเกมรับอย่างจัง

บทสรุป ด้วยความได้เปรียบในบ้านและฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอกว่า อินเตอร์ มิลาน ดูภาษีดีกว่าลิเวอร์พูลที่กำลังมีปัญหาทั้งในและนอกสนาม คาดว่าทัพ "งูใหญ่" จะอาศัยเกมรุกที่ดุดัน เบียดเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 หรือ 2-0 เก็บชัยชนะในบ้านได้สำเร็จ