
คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ทำไป 18 ประตูจาก 16 นัด ในฤดูกาลนี้กับเรอัล มาดริด คิดเป็น มากกว่าครึ่งหนึ่ง ของประตูรวมทั้งหมดที่ทีมทำได้ The Athletic ได้เขียนบทความกล่าวถึงปัญหาการทำประตูที่ย่ำแย่ของผู้เล่นคนอื่น ๆ ของมาดริด
บทความจาก The Athletic ระบุว่า
ช่วงพักเบรกทีมชาติครั้งนี้เปิดโอกาสให้เรอัล มาดริด ได้ทบทวนผลการแข่งขันที่น่ากังวลสองนัดล่าสุดอย่างละเอียด
นัดแรก คือการบุกไปแพ้ลิเวอร์พูล 0-1 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ซึ่งกลับมากระตุ้นคำถามเกี่ยวกับทีมของชาบี อลอนโซ่ ในเกมสำคัญ
นัดที่สอง คือการเสมอกับราโย บาเยกาโน่ 0-0 ในลาลีกา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พวกเขาไม่สามารถทำประตูได้สองนัดติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2023
เอ็มบัปเป้คือผู้นำอย่างไม่ต้องสงสัยด้วย 18 ประตูจาก 16 นัด ประตูของเขาคิดเป็นเกือบ 53% ของประตูรวมทั้งหมดของมาดริดในฤดูกาลนี้ ในขณะที่ช่วงเวลาเดียวกันของฤดูกาลที่แล้ว วินิซิอุสคือผู้ที่มีสัดส่วนการทำประตูสูงสุดที่มากกว่า 28% เล็กน้อย และเอ็มบัปเป้ทำได้ 25%
ภายใต้การคุมทีมของอลอนโซ่ ค่า Expected Goals (xG) ของมาดริดสูงกว่าปีที่แล้ว จำนวนประตูรวมและจำนวนประตูที่ไม่ใช่ลูกจุดโทษก็เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการสัมผัสบอลในกรอบเขตโทษและจำนวนการยิงประตูที่มากขึ้น แต่อัตราการเปลี่ยนโอกาสเป็นประตู (Conversion Rate) กลับลดลง
แล้วกองหน้าคนไหนที่มีฟอร์มหน้าประตูไม่ดีบ้าง
วินิซิอุส (ไม่ทำประตูมา 6 นัด)
วินิซิอุส อายุ 25 ปี เป็นผู้ทำประตูสูงสุดอันดับสองของมาดริดในฤดูกาลนี้ด้วย 5 ประตู แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะประสบปัญหาและถูกรายล้อมไปด้วยประเด็นขัดแย้ง เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับชาบี อลอนโซ่
ประตูสุดท้ายของเขาเกิดขึ้นในวันที่ 4 ตุลาคมที่ชนะบียาร์เรอัล 3-1 ซึ่งเขาทำคนเดียวสองประตู ตั้งแต่นั้นมา 6 นัดติดต่อกัน เขาไม่สามารถทำประตูหรือแอสซิสต์ได้เลย
ความขัดแย้งระหว่างวินิซิอุสกับโค้ชคนใหม่เป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงทุกวันทั้งในและนอกสโมสร เขาเชื่อว่าอลอนโซ่ปฏิบัติต่อเขาอย่างไม่ยุติธรรม เพราะเขาได้ลงเล่นครบ 90 นาทีเพียง 5 นัด จาก 16 นัดในฤดูกาลนี้ และนั่งสำรองถึง 3 นัด
เมื่อถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลังของเกม เอล กลาซิโก้ เดือนตุลาคม วินิซิอุสแสดงความโกรธอย่างชัดเจน โดยกล้องของ DAZN จับภาพเขาพูดว่า "ฉันจะออกจากทีม" ต่อมาวินิซิอุสได้ออกแถลงการณ์ "ขอโทษแฟนบอลเรอัล มาดริดทุกคน" รวมถึง "เพื่อนร่วมทีม สโมสร และประธานสโมสร" แต่ไม่มีการกล่าวถึงอลอนโซ่เลย
เรื่องการต่อสัญญาของวินิซิอุสถูกระงับไว้ โดยสัญญาปัจจุบันจะหมดลงในปี 2027 สถิติการทำประตูและ Expected Goals (xG) ต่อ 90 นาทีของเขาต่ำกว่าฤดูกาลที่แล้วเล็กน้อย
เบลลิงแฮม (ไม่ทำประตูมา 2 นัด)
ยังจำได้ไหมตอนที่จู๊ด เบลลิงแฮม ย้ายมาร่วมทีมเรอัล มาดริดในปี 2023 แม้จะเป็นกองกลางแต่เขาก็ทำสถิติสูงสุดในอาชีพด้วย 23 ประตู ในฤดูกาลแรก ตั้งแต่นั้นมาสถานการณ์ของเขาที่เบร์นาเบวก็เปลี่ยนไปมาก
ในระดับสโมสรฟอร์มของเบลลิงแฮมในฤดูกาลนี้ไม่สม่ำเสมอ แต่แหล่งข่าวในการฝึกซ้อมระบุว่าสาเหตุมาจากเขาเพิ่งฟื้นตัวจากการ ผ่าตัดไหล่ เขาเข้ารับการผ่าตัดหลังจบฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกในเดือนกรกฎาคม และกลับมาลงเล่นในปลายเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดการกลับมาคือเดือนตุลาคม
เบลลิงแฮมจำเป็นต้องเรียกฟอร์มกลับมาอย่างรวดเร็ว อลอนโซ่ไว้วางใจให้เขาเป็นตัวจริงในเกมกับแอตเลติโก มาดริด ซึ่งเป็นนัดแรกหลังการผ่าตัด แต่หลังความพ่ายแพ้ 2-5 อย่างย่อยยับ โค้ชได้ส่งเขาเป็นตัวสำรองติดต่อกันสองนัด ซึ่งเบลลิงแฮมไม่พอใจกับเรื่องนี้
เขาทำได้ 3 ประตู โดยเกิดขึ้นในสามนัดติดต่อกันในเดือนตุลาคมที่เจอกับยูเวนตุส บาร์เซโลนา และบาเลนเซีย แต่เขาไม่สามารถทำประตูได้ในเกมกับลิเวอร์พูลและบาเยกาโน่ ถึงกระนั้น สถิติการทำประตูต่อ 90 นาที (0.41) และ Expected Goals (xG) ต่อ 90 นาที (0.5) ของเขายังสูงกว่าข้อมูลตลอดทั้งฤดูกาลที่แล้ว แม้ว่าจำนวนตัวอย่างในปัจจุบันจะน้อยมากก็ตาม
อลอนโซ่กล่าวในการแถลงข่าวหลายครั้งว่าเขาต้องการให้เบลลิงแฮมเล่นในตำแหน่งกองกลาง แต่ยังคงมีอิทธิพลในกรอบเขตโทษของคู่แข่ง เบลลิงแฮมชอบเล่นในตำแหน่งที่สูงกว่า เหมือนกับที่อดีตโค้ชคาร์โล อันเชล็อตติเคยให้เขาเล่น เบลลิงแฮมส่วนใหญ่เล่นเป็นกองกลางตัวรุกนับตั้งแต่ย้ายมาเรอัล มาดริดในปี 2023 และเคยเล่นทางฝั่งซ้ายในฤดูกาลที่แล้ว
เนื่องจากการผ่าตัดและฟอร์มที่ไม่คงที่ เขาจึงไม่ถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษของโธมัส ทูเคิ่ลในช่วงพักเบรกทีมชาติเดือนกันยายนและตุลาคม เขากลับสู่ทีมชาติอังกฤษอีกครั้งในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกเดือนนี้กับเซอร์เบียและแอลเบเนีย โดยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมหลังลงมาเป็นตัวสำรองแทนโรเจอร์สในเกมแรก ซึ่งบ่งชี้ว่าเขาอาจจะยึดตำแหน่ง หมายเลข 10 ในทีมของทูเคิ่ลสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกช่วงฤดูร้อนหน้า
มาสแตนโทโน่ (ไม่ทำประตูมา 6 นัด)
มัสแตนโทโน่ อายุ 18 ปี ย้ายจากริเวอร์เพลทมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ด้วยค่าตัว 63.2 ล้านยูโร แม้จะพลาดสองนัดล่าสุดเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ขาหนีบ เขาก็ยังเป็นกองหน้าที่มีเวลาลงเล่นมากเป็นอันดับสามของฤดูกาลนี้ที่ 689 นาที เบื้องหลังยังคงมีความระมัดระวังเกี่ยวกับระยะเวลาที่เขาจะพักรักษาตัว
มาดริดมีความเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างชัดเจน ท้ายที่สุดเขาคือการเซ็นสัญญาที่แพงที่สุดของสโมสรในฤดูร้อนนี้ เขาได้แสดงให้เห็นถึงฟอร์มระดับสูงและความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่ง แต่ยังคงอยู่ในช่วงปรับตัว เขาทำได้เพียง 1 ประตู จาก 12 นัด และ 1 แอสซิสต์ ในแชมเปียนส์ลีกกับไครัต อัลมาตี แต่โอกาสสร้างสรรค์การยิงต่อ 90 นาทีในลาลีกาที่ 3.3 ครั้ง นั้นเป็นเพียงอันดับที่ 8 ในทีมมาดริด
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่ามัสแตนโทโน่แสดงให้เห็นถึงบุคลิกที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่เข้าร่วมทีมมาดริด เขาเข้ากับทีมได้ดีและมักจะล้อเล่นกับเพื่อนร่วมทีมคนใหม่ พวกเขายังกล่าวว่าอลอนโซ่เคยขอให้มัสแตนโทโน่ระวังตำแหน่งของเขามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อย่าถอยลงมาจากปีกขวามากเกินไป
เขาต้องการเวลาในการปรับตัว แต่สถานการณ์ของเขายังเน้นให้เห็นถึง ปัญหาที่อลอนโซ่เผชิญทางปีกขวา ซึ่งเขายังไม่สามารถหากุญแจที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างสมบูรณ์
โรดรีโก้ (ไม่ทำประตูมา 13 นัด)
สถานการณ์ของโรดรีโก้ อายุ 24 ปี อาจเป็นเรื่องที่น่ากังวลที่สุด เขาไม่สามารถทำประตูในการแข่งขันอย่างเป็นทางการของมาดริดได้เลยนับตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรกของแชมเปียนส์ลีกเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ประตูสุดท้ายของเขาในลาลีกาย้อนไปถึงวันที่ 19 มกราคม
โรดรีโก้ทำได้เพียง 2 แอสซิสต์ จาก 13 นัดในฤดูกาลนี้ แต่ในความเป็นจริง ภายใต้การคุมทีมของอลอนโซ่ โอกาสสร้างสรรค์การยิงต่อ 90 นาทีในลาลีกาที่ 7.24 ครั้ง นั้นนำเป็นอันดับหนึ่งของทีม แซงหน้าวินิซิอุสและเอ็มบัปเป้
ในการสนทนาครั้งแรกกับอลอนโซ่ เขาได้แสดงความชอบที่จะเล่นทาง ฝั่งซ้าย ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เขารู้สึกสบายใจมากกว่า แต่เพื่อนร่วมชาติของเขาอย่างวินิซิอุสยึดตำแหน่งนั้นไว้อย่างมั่นคง โรดรีโก้เคยเล่นทางซ้ายแทนวินิซิอุสในเดือนสิงหาคม แต่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเขากลับมาอยู่ทาง ปีกขวา ซึ่งเป็นตำแหน่งปกติของเขา
ทั้งมาดริดและอลอนโซ่ต่างเต็มใจที่จะปล่อยเขาออกไปในช่วงซัมเมอร์ หากมีข้อเสนอที่สมเหตุสมผล แต่แม้จะได้รับความสนใจจากทีมในพรีเมียร์ลีก ข้อเสนอดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้น
เขาไม่พอใจกับบทบาทของเขาในทีม แต่คนรอบข้างเชื่อว่าเขาจะ ไม่ย้ายออกไปในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคม
สถิติเกมรุกของโรดรีโก้ในฤดูกาลนี้ค่อนข้างน่าสนใจ อันที่จริงจำนวนการยิงต่อ 90 นาทีของเขาเพิ่มขึ้นจากฤดูกาลที่แล้ว (3.8 ครั้งเทียบกับ 2.6 ครั้ง) แต่ Expected Goals (xG) อยู่ที่ 0.18 ในขณะที่ข้อมูลตลอดฤดูกาลที่แล้วอยู่ที่ 0.24 อย่างไรก็ตาม จำนวนตัวอย่างนี้มีน้อยมาก เมื่อพิจารณาว่าโรดรีโก้ลงเล่นเทียบเท่ากับเกมเต็มเพียงสี่เกม
บราฮิม ดิอาซ (ไม่ทำประตูมา 6 นัด)
บราฮิมได้เป็นตัวจริงสี่ครั้งและลงเล่นเกือบทุกนัดในฤดูกาลนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าอลอนโซ่ให้ความสำคัญกับเขาในฐานะผู้เล่นหมุนเวียนที่ใช้งานได้จริง
สโมสรก็ให้ความสำคัญกับคุณภาพและทัศนคติของเขาเช่นกัน และการต่อสัญญาของเขาก็ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว
แต่บราฮิมยังไม่ได้สร้างผลกระทบที่สำคัญในเกมรุก โดยทำได้เพียง 1 ประตู และ 2 แอสซิสต์ ในแชมเปียนส์ลีกกับไครัต อัลมาตี จำนวนการยิงรวมเฉลี่ยต่อเกมของเขาเท่ากับฤดูกาลที่แล้ว (2.1 ครั้ง) แต่ Expected Goals (xG) ต่อ 90 นาทีลดลงจาก 0.36 ในฤดูกาลที่แล้วเหลือ 0.18
ทางเลือกอื่น: กือแลร์ กอนซาโล่ และเอ็นดริค (รวมกันไม่ทำประตูมา 18 นัด)
ในช่วงที่ทีมขาดการทำประตูเมื่อไม่นานมานี้ อาร์ดา กือแลร์ ได้แสดงศักยภาพในการเป็นผู้ทำประตู ฤดูกาลนี้เขาถูกอลอนโซ่ปรับกลับไปเล่นในตำแหน่งกองกลาง โดยทำไปแล้ว 3 ประตูและ 6 แอสซิสต์ แต่ประตูสุดท้ายของเขาเกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนกันยายน ซึ่งหมายความว่าเขา ไม่สามารถทำประตูได้ 8 นัดติดต่อกัน
กอนซาโล่ การ์เซีย ที่มาจากทีมเยาวชนสร้างความประทับใจให้กับทุกคนในฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก โดยคว้า รองเท้าทองคำ จากการทำ 4 ประตู สิ่งนี้ทำให้กอนซาโล่วัย 21 ปีได้รับสัญญาฉบับใหม่และเลื่อนชั้นสู่ทีมชุดใหญ่ของอลอนโซ่ แต่ตั้งแต่นั้นมาเขาลงเล่น 9 นัด เป็นตัวจริงเพียง 1 นัด และ ไม่สามารถทำประตูได้เลยใน 108 นาที ที่เขาได้ลงสนาม
เอ็นดริค กลับมาจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อในช่วงกลางเดือนกันยายน เขาลงเล่นเพียง 11 นาที ภายใต้การคุมทีมของอลอนโซ่ และคาดว่าจะย้ายไป โอลิมปิก ลียง ด้วยสัญญายืมตัวที่ไม่มีตัวเลือกซื้อขาดในเดือนมกราคม
สโมสรไม่เห็นด้วยกับวิธีที่อลอนโซ่ปฏิบัติต่อเอ็นดริค ซึ่งมาดริดจ่ายเงิน 35 ล้านยูโร ให้กับพัลไมรัสพร้อมส่วนเสริมอีก 25 ล้านยูโร เพื่อดึงตัวเขามา ซึ่งอย่างน้อย 12.5 ล้านยูโร ได้ถูกจ่ายไปแล้ว