1. ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เลือกเวลาให้ถูก ไม่รบกวนใคร และได้อยู่แบบส่วนตัว
ครั้งนี้ผมมาสเปนเพื่อลงเตะเกมกระชับมิตรให้ทีมชาติอาร์เจนตินา และผมต้องไปรายงานตัวที่อลิกันเตในวันที่ 11 ผมเลยเลือกไปที่คัมป์นูในช่วง "เที่ยงคืน" ก่อนวันเดินทาง
เหตุผลก็คือ หนึ่ง ช่วงนั้นการก่อสร้างส่วนใหญ่หยุดพักแล้ว จะได้ไม่รบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ สอง ตอนกลางคืนคนน้อย ทำให้ผมได้ใช้เวลาอยู่กับสนามแบบเงียบๆ เป็นส่วนตัว เหมือนได้กลับมาคุยกับเพื่อนเก่า
ถ้าทุกคนอยากมา ผมแนะนำให้เลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วนที่เขาก่อสร้างกันตอนกลางวัน (ปกติคือ 8:00 - 18:00 น.) ไปตอนค่ำๆ หรือดึกๆ จะเหมาะกว่า คุณยังจะได้เห็นคัมป์นูที่กำลังก่อสร้างภายใต้แสงไฟ ซึ่งมันให้ความรู้สึกพิเศษเหมือน "ได้เฝ้าดูขั้นตอนที่เขากำลังสวยขึ้น" เลยครับ
2. เส้นทางสู่สนาม: จาก "หน้าบ้าน" ถึงสนามใน 5 นาที
การเลือกที่พัก: ผมพักที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท (Grand Hyatt) ที่อยู่ข้างคัมป์นูเลยครับ มองจากห้องก็เห็นสนาม เดินไปแค่ 5 นาที สะดวกมากๆ ทุกคนอาจจะลองเลือกโรงแรมในรัศมี 1 กิโลเมตร รอบๆ สนาม การเดินไปจะให้ฟีลเหมือน "เดินกลับบ้าน" มากกว่า ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องที่จอดรถหรือเรียกแท็กซี่
การเลือกทางเข้า: ผมเดินเข้าทางฝั่งตะวันตกของสนาม ตรงทางเข้าที่อยู่ใกล้กับ "อุโมงค์นักเตะเก่า" (ตอนนี้เป็นทางเข้าเล็กๆ ที่เปิดชั่วคราวช่วงก่อสร้าง) พวกรปภ. ที่ประตูจะค่อนข้างคุ้นเคยกับ "เพื่อนเก่า" ของคัมป์นูดี พอเขาเห็นว่าคุณมาด้วยใจที่คิดถึงจริงๆ เขาก็จะไม่ซักถามอะไรมาก (อย่างตอนที่ผมไป รปภ. ก็อึ้งไปแป๊บนึง แล้วก็พยักหน้าให้ผมเข้าไป) ไม่จำเป็นต้องพยายามหาทางเข้าหลักครับ ทางเข้าชั่วคราวในช่วงก่อสร้างนี่แหละ ที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดและเป็นกันเองมากกว่า
3. จุดที่ต้องไปสัมผัส: รายละเอียดเล็กๆ ที่ซ่อนความทรงจำของผมไว้
พื้นที่รอบสนามหญ้า (จุดไฮไลท์): คุณต้องไปเหยียบทางเดินรอบนอกสนามหญ้าให้ได้! ตอนที่ผมก้าวเท้าลงไป กลิ่นหญ้าที่คุ้นเคย (แม้ว่าตอนนี้บางส่วนจะกำลังซ่อมแซมอยู่) ก็ดึงผมกลับไปสู่วันที่เคยซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม และวันที่เราฉลองแชมป์กันทันที ตรงนี้คุณจะเห็นโครงสร้างอัฒจันทร์ใหม่ที่กำลังก่อสร้าง พอนึกเทียบกับภาพจำเก่าๆ ที่เคยมีแฟนบอลเต็มสนาม มันจะทำให้คุณรู้สึกตื้นตันมากๆ แนะนำให้ยืนอยู่ตรงนั้นสักพักครับ สัมผัสความรู้สึก "เก่าผสมใหม่" นี้
ถ่ายรูปข้างรั้วก่อสร้าง: รูปที่ผมโพสต์ลงโซเชียลก็เป็นรูปที่ถ่ายง่ายๆ ตรงหน้าแผงกั้นก่อสร้างนั่นแหละครับ ไม่ได้แต่งรูปอะไรเลย เพราะผมนึกว่าพวกนั่งร้านก่อสร้าง หรือป้ายที่เขียนว่า "เสร็จปี 2026" นี่แหละคือสัญลักษณ์เฉพาะของช่วงเวลานี้ ไม่ต้องพยายามหา "ภาพที่สมบูรณ์แบบ" หรอกครับ รูปแบบนี้แหละที่เก็บความรู้สึกจริงๆ เอาไว้ คุณอาจจะลองถ่ายเหมือนผม คือหันหน้าเข้าสนาม แล้วเขียนแคปชั่นง่ายๆ เป็นความรู้สึกจากใจก็พอ
"ทักทายกันผ่านโซเชียล": หลังจากที่ผมโพสต์ IG ไป เดมเบเล่ก็มากดไลก์ทันที แถมบัญชีทางการของบาร์ซ่าก็ยังรีโพสต์พร้อมแคปชั่นว่า "ยินดีต้อนรับกลับบ้านเสมอ เลโอ" ถ้าคุณไปแล้ว ลองแชร์ลงโซเชียลดูสิครับ ไม่แน่ว่าอาจจะมีแฟนๆ บาร์ซ่าคนอื่นเข้ามาทักทาย เหมือนได้คุยกับกลุ่มเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนาน ความรู้สึกที่ได้เชื่อมโยงกันแบบนี้มันมีค่ามากนะ
4. ข้อควรระวัง: ความเคารพและความปลอดภัย สำคัญที่สุด
ไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า แต่ต้องทำตามกฎ: ตอนนั้นผมไม่ได้บอกสโมสรล่วงหน้าครับ เพราะรู้สึกว่าการกลับ "บ้าน" ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมาก แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องไม่รบกวนการก่อสร้าง ห้ามบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ก่อสร้างเด็ดขาด อย่าไปแตะต้องอุปกรณ์ของเขา อยู่เฉพาะในจุดที่ รปภ. อนุญาต นี่คือการให้เกียรติสถานที่และคนที่กำลังทำงานครับ
ปลอดภัยไว้ก่อน: ช่วงก่อสร้าง บนพื้นอาจจะมีสายไฟหรือวัสดุวางเกะกะ ให้ใส่รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าที่เดินสบายๆ อย่ามัวแต่ถ่ายรูปจนลืมมองทาง ถ้าไปตอนกลางคืนที่แสงน้อย ก็ใช้ไฟฉายจากมือถือนั่นแหละครับ ช่วยส่องทางและยังช่วยเพิ่มแสงตอนถ่ายรูปได้ด้วย
ทำใจสบายๆ: มีคนบอกว่าผม "นึกครึ้ม" หรือ "หุนหัน" ถึงไป แต่จริงๆ แล้วผมแค่ทำตามหัวใจตัวเอง ทุกคนที่ไปก็เหมือนกันครับ ไม่ต้องกดดันว่า "ต้องทำภารกิจอะไรให้ครบ" แค่ได้ไปยืนมองอยู่หน้าประตู ด้วยความรักที่มีต่อคัมป์นู แค่นั้นมันก็มีความหมายมากพอแล้ว
5. โบนัสเล็กๆ: คำสัญญาสำหรับอนาคต
ตอนนี้คัมป์นูมีกำหนดก่อสร้างให้เสร็จภายในปี 2026 ถ้าถึงวันนั้นที่สนามซ่อมเสร็จแล้ว ผมต้องกลับมาที่นี่อีกครั้งแน่นอนครับ
อยากให้ทุกคนมองว่าการมาเยือนในช่วงก่อสร้างนี้เหมือน "การทำสัญญาใจกับคัมป์นู" ไว้นะครับ พอครั้งหน้าเรากลับมาอีกครั้งในวันที่ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ เราจะได้เปรียบเทียบ "โฉมใหม่" กับ "ความทรงจำในวันนี้" ...แค่คิดก็รู้สึกดีแล้วครับ