ข่าวฮอต
ติดตาม

เรือใบอัดหงส์แดง 3-0! ฮาลันด์ยิงที่ 14 แม้พลาดจุดโทษ – โดกูซัดสุดสวย! แมนฯ ซิตี้ จี้จ่าฝูงเหลือ 4 แต้ม


ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 11 ซึ่งเป็นคู่เอกประจำสัปดาห์ ที่เพิ่งจบลงไปเมื่อเวลา 18:00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน ตามเวลาประเทศไทย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้อย่างขาดลอย 3-0 ถือเป็นการฉลองชัยชนะนัดที่ 1,000 ในอาชีพผู้จัดการทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ได้อย่างสมบูรณ์แบบ


ครึ่งแรก: เฌเรมี โดกู สร้างโอกาสเรียกจุดโทษได้ แต่เออร์ลิง ฮาลันด์ ยิงไม่เข้าติดเซฟของ จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี อย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตาม นูเนส ก็เปิดบอลให้ ฮาลันด์ โหม่งทำประตูขึ้นนำได้สำเร็จ (1-0) เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายให้ลิเวอร์พูลได้ แต่ถูก VAR ริบประตูเนื่องจากมองว่า ลิเวอร์พูล ล้ำหน้า หลังจากนั้น นิโก กอนซาเลซ ก็ยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ บอลแฉลบ ฟาน ไดจ์ค เปลี่ยนทางเข้าประตูไปให้แมนฯ ซิตี้ หนีห่างเป็น 2-0


ครึ่งหลัง: โคดี กักโป มีโอกาสยิงโล่งๆ หน้าปากประตูแต่ทำพลาด ในขณะที่ เฌเรมี โดกู ก็ยิงโค้งจากนอกกรอบเขตโทษเข้าไปอย่างสวยงาม เป็นประตูย้ำชัย 3-0 ก่อนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะพลาดโอกาสยิงโล่งๆ เช่นกัน


ผลกระทบจากชัยชนะ:

แมนฯ ซิตี้ คว้าชัย 4 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ เก็บเพิ่มเป็น 22 คะแนนจาก 11 นัด ลดช่องว่างตามหลังจ่าฝูง อาร์เซนอล เหลือเพียง 4 คะแนน


ลิเวอร์พูล หยุดสถิติชนะ 2 นัดติดต่อกันไว้เพียงเท่านั้น มี 18 คะแนนจาก 11 นัด หล่นไปอยู่อันดับที่ 8 ของตาราง ตามหลังจ่าฝูง อาร์เซนอล อยู่ถึง 8 คะแนน


ประเด็นสำคัญ:

นาทีที่ 8: อิบู โคนาเต และ คอเนอร์ แบรดลีย์ เล่นพลาด โดกู ตัดเข้าในเขตโทษและถูกผู้รักษาประตู มามาร์ดาชวิลี พุ่งเข้าชน จากการดู VAR ผู้ตัดสินให้จุดโทษ แต่ ฮาลันด์ ยิงไปติดเซฟอันยอดเยี่ยมของ มามาร์ดาชวิลี


นาทีที่ 28: นูเนส เปิดบอลจากฝั่งขวามาที่เสา สอง ฮาลันด์ เบียดเอาชนะ โคนาเต โหม่งทำประตู ให้แมนฯ ซิตี้ นำ 1-0 นี่คือประตูที่ 14 ของ ฮาลันด์ ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (11 นัด) และเป็นประตูรวมที่ 99 ในอาชีพพรีเมียร์ลีกของเขา


นาทีที่ 37: ลิเวอร์พูล ได้ลูกเตะมุม ฟาน ไดจ์ค โหม่งเข้าประตูไป แต่ถูกผู้ตัดสินริบคืน เนื่องจากมองว่า แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ล้ำหน้าและมีส่วนในการขัดขวาง ดอนนารุมมา


นาทีที่ 45+2: นิโก กอนซาเลซ ลากบอลมาตรงกลางและตัดสินใจยิงไกล บอลไปแฉลบ ฟาน ไดจ์ค เปลี่ยนทางเข้าประตูไป แมนฯ ซิตี้ นำ 2-0


นาทีที่ 63: โดกู ตัดจากซ้ายเข้าในกรอบเขตโทษ ก่อนจะปั่นด้วยขวา บอลโค้งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสุดสวย แมนฯ ซิตี้ นำ 3-0


โอกาสสำคัญอื่นๆ:

นาทีที่ 59: แบรดลีย์ เปิดบอลมาให้ กักโป ที่เสา สอง แต่เจ้าตัวยิงวอลเลย์ด้วยเท้าข้างที่ไม่ถนัดโด่งข้ามคานออกไปอย่างเหลือเชื่อ


นาทีที่ 79: ซาลาห์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าเขตโทษและพยายามชิพบอล แต่หลุดเสาออกไป โดยมีเพื่อนร่วมทีมวิ่งตามมาเพื่อรอรับบอลโล่งๆ สองคน


รายชื่อผู้เล่นตัวจริง:

แมนเชสเตอร์ ซิตี้: 25-ดอนนารุมมา; 3-รูเบน ดิอาส, 24-กวาร์ดิโอล, 33-โอไรลีย์; 27-นูเนส, 4-นิโก กอนซาเลซ, 20-แบร์นาร์โด ซิลวา, 10-เชอร์กี้ (53' 26-ซาวินโญ่); 11-โดกู (74' 7-มาร์มูช), 47-โฟเดน, 9-ฮาลันด์


ลิเวอร์พูล: 25-มามาร์ดาชวิลี; 12-แบรดลีย์ (83' 2-โกเมซ), 4-ฟาน ไดจ์ค, 5-โคนาเต, 26-โรเบิร์ตสัน (56' 6-เคอร์เคซ); 38-กราเฟนแบร์ค, 8-โซบอสไล, 10-แม็ค อัลลิสเตอร์ (74' 17-โจนส์); 11-ซาลาห์ (83' 14-คิเอซา), 7-เวียร์ตซ์, 22-เอคิติเก้ (56' 18-กักโป)

คอมเมนต์

โพสต์